#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
เรื่อง การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
เรื่อง การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง
“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ”
“การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง” การให้แบ่งเป็น ๕ ประเภท ได้แก่
๑.การให้ความเมตตา คือ ให้ความรักซึ่งเป็นเรื่องของจิตใจ โดยเป็นการให้ความรัก นี้ ไม่ต้องใช้วัตถุเงินทองมาซื้อหา เช่น ความรักภายในครอบครัว พ่อแม่ ลูก อันพึงมีต่อกันและกัน นั่นเอง หากทุกท่านเพียรให้ความรักความเมตตาแก่กันแล้ว ย่อมจะนำพาความร่มเย็นและความสันติสุขมาสู่สังคม สมดังคำกล่าวของท่านพุทธทาสว่า “รักษาศีลข้อเดียวพอ” นั่นคือ การรักผู้อื่น” หากทำเช่นนี้ได้ เราจะไม่ทำร้าย เบียดเบียนผู้อื่นอย่างแน่นอน และผู้ที่ให้ความเมตตาจะได้รับความรักตอบแทนในที่สุด
๒.การให้วัตถุสิ่งของ คือ “วัตถุทาน”อาทิเช่น ทานที่ท่านมาทำบุญใส่บาตรในวันพระนี้ และยังเผื่อแผ่ทาน ด้วยอาหารให้ญาติธรรมอีกด้วย จึงถือว่าเป็นการให้วัตถุทาน
๓.การให้อภัย ในสังคมทุกวันนี้ อาจสร้างความพลาดพลั้งกระทั่งแบบไม่ตั้งใจ ต่อกันจึงเป็นเหตุให้เกิดโทสะ และทำร้ายกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการให้อภัยนี้ มี ๒ ประการ คือ
๓.๑. คือ การให้อภัยในจิตในใจตนเอง ด้วยการยอมรับแก่ใจตนว่า ให้อภัยต่อบุคคลผู้มาทำให้เราทุกข์ใจ เป็นต้นเพราะว่าหากท่านเก็บมาคิดท่านจะมีจิตใจที่เร่าร้อน เครียดแค้น อันเป็นทุกข์แก่ตนเอง
๓.๒ คือ การให้อภัยจากภายนอก ด้วยการเริ่มต้นประพฤติปฏิบัติตนด้วยการมอบความรักความเมตตา แก่ผู้อื่นเป็นสำคัญ
๔.การให้ธรรม เป็นทานดังพุทธภาษิตข้างต้นว่า “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ” “การให้ธรรม ย่อมชนะการให้ทั้งปวง” เพราะว่าโลกจะพบสันติได้ ก็ด้วยทุกคนมีธรรม ดังนั้นการให้ธรรมจึงชนะการให้สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ดังเช่น วัดป่าสุญญตา มีนโยบายว่า “ให้เป็นสถานที่ ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม เผยแผ่ธรรม” คือ การให้ธรรมนั่นเองดังนั้น วัดป่าสุญญตาเราจึงไม่มีการให้วัตถุมงคล เพราะว่า “ธรรม” นี่แหละเป็นมงคลแก่ท่านแล้ว
๕.การให้ขันธ์ ๕ เป็นทาน ให้พิจารณาทุกข์ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ซึ่งการให้ในข้อนี้ไม่มีตัวบุคคลเป็นผู้รับ ซึ่งหมายถึงการปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่น (อันแตกต่างจากการให้ใน๔ ข้อข้างต้นเพราะมีบุคคลเป็นผู้รับ)
มีคำกล่าว ในนิกายเซน ว่า “การให้ขันธ์ ๕ เป็นทาน ดีกว่าให้เงินทองวัตถุเป็นทาน พิจารณาขันธ์ ๕ ให้ว่าง ทุกข์ทั้งปวงจะดับไป” คือ การปล่อยวาง ไม่ยึดติดในขันธ์ ๕ นั่นเอง หรือ เป็นอนัตตา คือไม่มีอยู่จริง จิตใจจะพบอิสระภาพเสรีภาพ ไม่มีความทุกข์ด้วยประการทั้งปวง.
เรียบเรียบธรรมบรรยายโดย ลลิต มณีธรรม.
2 Comments

