#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
##พ้นภูมิแห่งความคิด
##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๒๑๕, หน้า ๗๕- ๗๖; ขอแบ่งออกเป็น ๒ ประโยค ดังนี้ :-
##ประโยคที่ ๑ ""ฉะนั้นจึงมีคำจารึกไว้ว่า คำสอนของพุทธะทั้งหมด มีวัตถุประสงค์ข้อนี้เพียงข้อเดียว คือ พาพวกเราข้ามขึ้นให้พ้นเสียจากภูมิแห่งความคิด"" ในประโยคนี้ท่านอาจารย์พุทธทาสอธิบายไว้ว่า...
"ข้อนี้หมายถึงสามารถปฏิบัติจนหยุดพฤติของความคิดปรุงแต่งต่าง ๆ เสียได้, ไม่มีอะไรสามารถปรุงให้จิตคิดไปตามอำนาจกิเลสตัณหาได้อีกต่อไป เป็นจิตที่ว่างจากสิ่งปรุงแต่งและการคิดทั้งปวง ก็เป็นตัวธรรมหรือพุทธะ เป็นตัวธรรมชาติเดิมแท้ อยู่ในความเป็นอย่างนั้น"
คำว่า พุทธะในประโยคนี้ หมายถึง พระพุทธเจ้าที่เป็นองค์พระศาสดา พระองค์สอนให้หลุดพ้น (วิมุตติ) ไปจากความคิดปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง.
##ประโยคที่ ๒ ""บัดนี้ถ้าข้าพเจ้าหยุดความคิดของข้าพเจ้าได้สำเร็จแล้ว, ประโยชน์อะไรด้วยธรรมทั้งหลายที่พุทธะได้สอนไว้"" ข้อความในประโยคแรกที่ว่า"ข้ามขึ้นให้พ้นเสียจากภูมิแห่งความคิด"
ความคิดปรุงแต่งแยกออกได้เป็น ๓ ภูมิ ได้แก่: ๑) กามาวจรภูมิ คือ ความคิดปรุงแต่งไปในเรื่องของกาม. ๒) รูปาวจรภูมิ คือ ความคิดปรุงแต่งไปในเรื่องของรูปธรรมล้วน ๆ. และ ๓) อรูปาวจรภูมิ คือ ความคิดปรุงแต่งไปในเรื่องของสิ่งที่มิใช่รูป เช่น เกียรติยศชื่อเสียง เป็นต้น.
ในประโยคที่สองความหมายที่ว่า เมื่อหยุดความคิดได้สำเร็จแล้ว ประโยชน์อะไรกับคำสอนของพระพุทธเจ้า หมายความว่า เมื่อเห็นแจ้งต่อจิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้แล้ว หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ไม่จำเป็น. (๑๓ ม. ค.๖๒)