#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
##สว่างที่เหนือสว่าง.
##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๓๓๕, หน้า ๑๑๘; ขอแบ่งออกเป็น ๓ ประโยค ดังนี้ :-
##ประโยคที่ ๑ ""จิตย่อมเต็มไปด้วยความใสกระจ่างอย่างมีประภัสสร ดังนั้น มันย่อมขจัดเสียซึ่งความมืดแห่งความคิดดั้งเดิมทั้งหลายของพวกเธอ""
คำว่า จิตที่ใสกระจ่างอย่างมีประภัสสร หมายถึง จิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้ จะเรียกว่า จิตว่างก็ได้ สิ่งที่เรียกว่า จิตว่าง มีลักษณะสว่างชนิดที่ไม่เป็นคู่กับความมืด ความสว่างที่เป็นคู่กับความมืด ก็เป็นความมืดอีกอย่างหนึ่ง คือความมืดแห่งความสว่าง หรือจะเรียกว่า วิปัสสนูปกิเลสก็ได้ เป็นกิเลสที่เกิดขึ้นในรูปของวิปัสสนา.
##ประโยคที่ ๒ ""ฉิ หมิ่ง กล่าวไว้ว่า "จงปลดเปลื้องตัวท่านทั้งหลาย ออกเสียจากทุก ๆ สิ่ง""
ปลดเปลื้องความคิดปรุงแต่งออกไปจากจิตใจ ปุถุชนมองไม่เห็นจิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้ ก็เพราะถูกความคิดปรุงแต่งบดบังไว้ เปรียบดั่งดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน ที่ถูกบดบังไว้ด้วยเมฆ ส่วนอริยชนเป็นผู้ที่เห็นแจ้งอยู่กับจิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้แล้ว เพราะท่านได้ปลดเปลื้องความคิดปรุงแต่งออกไปได้นั่นเอง ซึ่งเปรียบดั่งดวงอาทิตย์ที่ปราศจากเมฆบดบัง.
##ประโยคที่ ๓ ""ข้อความในสัทธรรมปุณฑริกสูตร ซึ่งกล่าวถึงการเสียเวลาไปตั้งยี่สิบปีเต็มในการโกยปุ๋ยทิ้งเสีย ย่อมแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการที่จะขับไล่สิ่งทุกสิ่ง ซึ่งเอียงไปในทางการคิดปรุงแต่ง ออกไปเสียจากใจของพวกเธอ""
ในประโยคนี้ ท่านเปรียบความคิดปรุงแต่งเหมือนกับปุ๋ยคอกที่สกปรก ดังนั้น ต้องใช้สติปัญญาป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นมา แต่ถ้าเกิดขึ้นมาแล้วก็ขจัดออกไปให้หมดสิ้น, จิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้ เป็นอสังขตธรรม ส่วนความคิดปรุงแต่ง เป็นสังขตธรรม. (๒ ธ. ค.๖๔)