#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

วันพระ​ ขึ้น​ ๘​ ค่ำ เดือน​ ๑๑

          สัปปุริสธรรม ๗ หมายถึง ธรรมของสัตบุรุษ ธรรมที่ทำให้เป็นสัตบุรุษ คุณสมบัติของคนดี ธรรมของคนดี มีดังนี้ ๑. ธัมมัญญุตา คือ รู้จักเหตุ ๒. อัตถัญญุตา คือ รู้จักผล ๓. อัตตัญญุตา คือ รู้จักตน ๔. มัตตัญญุตา คือ รู้จักประมาณ ๕. กาลัญญุตา คือ รู้จักกาล ๖. ปุริสัญญุตา คือ รู้จักชุมชน ๗. ปุคคลปโรปรัญญุตา คือ รู้จักบุคคล

          ในวันนี้จะขอกล่าวเพียงแค่ การรู้จักเหตุ คือ ธัมมัญญุตา แห่งสัปปุริสธรรม ๗ การรู้จักเหตุ คือ รู้ว่าเหตุนี้นำไปสู่ผลอะไร รู้ว่าเรื่องนั้นๆมีที่มาที่ไปอย่างไร รู้ว่าผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำมีสาเหตุมาจากอะไร อันนี้เป็นเหตุของความสุขหรือไปสู่ผลแห่งความทุกข์ ทำด้วยความไม่รู้เพราะขาดสติ การสร้างเหตุให้ถูกต้องก็จะถูกต้อง สร้างเหตุแห่งคุณความดีงาม ชีวิตก็จะดีงาม อย่างนี้เป็นต้น

           ในที่นี้จะขอกล่าวตาม จูฬกัมมวิภังคสูตร

      ๑. เหตุแห่งผู้ที่เกิดมาอายุสั้น เพราะเป็นผู้ที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ส่วนผู้ที่มีอายุยืน คือผู้ที่มีจิตเมตตา ไม่คิดเบียดเบียนทำร้ายชีวิตอื่น มีความละอายในการทำบาป

      ๒. เกิดมาแล้วเป็นผู้ที่มีโรคภัยเบียดเบียน เพราะเป็นผู้ที่ชอบรังแกสัตว์ เช่น เด็กๆบางคนชอบยิงนกตกปลา ล่าสัตว์ ส่วนผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะสร้างเหตุมาดี  คอยช่วยเหลือสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย มีจิตเมตตากรุณา

      ๓.เป็นผู้มีผิวพรรณทราม ไม่ผ่องใสเพราะเป็นผู้ที่มักโกรธ ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดเคืองใจ โกรธง่าย เช่น ผู้ที่นั่งฟังธรรมอยู่แต่คิดถึงเพื่อนที่ไปตกปลา มีความรู้สึกไม่พอใจทำให้จิตเป็นอกุศล ส่วนผู้ที่ตกปลาอยู่ไม่มีโอกาสได้มาฟังธรรม เพราะต้องทำมาหาเลี้ยงชีพแต่มีจิตที่เป็นกุศล ก็คิดอนุโมทนาบุญกับเพื่อนผู้มาฟังธรรม ทำให้ได้ขึ้นสวรรค์ ส่วนผู้ที่มีผิวพรรณผ่องใส คือเป็นผู้ที่มีจิตใจดีมีเมตตา

      ๔.เป็นผู้ที่มีอำนาจน้อย~บริวารน้อย คือเป็นผู้ที่มีจิตคิดอิจฉาริษยาผู้อื่นเมื่อเห็นเขาได้ดีมีสุขหรือมั่งมีกว่าตน ส่วนผู้ที่มีอำนาจวาสนาบารมี มีบริวารคอยช่วยเหลือเป็นผู้ที่มีมุทิตาจิต ชื่นชมยินดีกับผู้ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือเมื่อเห็นเขาได้ดีมีความสุขก็พลอยยินดีด้วยจิตอันเป็นกุศล

      ๕.เป็นผู้ที่มีโภคทรัพย์น้อย ไม่มีที่จะอยู่อาศัยเพราะเป็นผู้ที่ตระหนี่ ไม่ยอมสละให้ทาน ส่วนผู้ที่มีจิตใจขว้างขวางมีการให้คอยช่วยเหลือเอื้อเฟื้อแบ่งปันมีน้ำใจ ไม่ตระหนี่ไม่เห็นแก่ตัว

      ๖.เป็นผู้ที่เกิดในตระกูลต่ำ เพราะเป็นผู้ที่แข็งกระด้าง มักข่มเหงดูหมิ่นผู้อื่น ถือตัวถือตน ไม่เคารพกราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ส่วนผู้ที่เกิดในตระกูลสูง เป็นผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน มีความเคารพกราบไหว้ผู้ที่ควรกราบไหว้ ทำให้มีคนเคารพนับถือ มีบริวาร

      ๗.เกิดมาเป็นผู้ไร้ปัญญา เพราะไม่เข้าหาสมณพราหมณ์ผู้รู้ ไม่แสวงหาความรู้ว่าสิ่งใดเป็นกุศลสิ่งใดเป็นอกุศล ทำให้เป็นผู้ไร้ปัญญา ดังนั้นอยากเป็นผู้มีปัญญา ก็ต้องเข้าหาสมณพราหมณ์ผู้รู้ มีใจไฝ่ศึกษาหาความรู้สิ่งใดเป็นกุศลสิ่งเป็นอกุศล พัฒนาตนเอง   

           ผู้รู้จักเหตุดีที่สุดในพระพุทธศาสนา คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์เป็นผู้ที่รู้จักเหตุ ว่าเหตุอะไรนั้นนำไปสู่ความทุกข์ เหตุอะไรนำให้เกิดทุกข์ คนเรานั้นทำไมถึงเกิดความทุกข์ขึ้นในจิตใจ

           ความทุกข์นั้นเกิดมาจากความทยานอยาก มาจากตัณหา มาจากการดิ้นรน อยากมี อยากได้ อยากเป็น พระพุทธองค์เป็นผู้ที่แยกแยะเหตุได้ละเอียด     

           บางคนบอกว่าเหตุของชีวิตนั้นเพราะเราเกิดมา ก็ไปโทษว่า เพราะการมีชีวิตอยู่นี้เป็นทุกข์ ทำให้จิตหดหู่เศร้าหมอง จึงคิดทำลายชีวิต  อย่างนี้เรียกว่า อวิชชา คือ ความไม่รู้ ไม่รู้ว่าเหตุจากความทุกข์นั้นเกิดมาจากอะไร ความทุกข์นั้นดับไปอย่างไร เรียกว่าไม่รู้ว่าเหตุมาจากอะไร ไม่รู้จักเหตุที่ถูกต้อง ทำให้เป็นทุกข์ด้วยความยึดมั่นถือมั่น ไม่มีสติปัญญาในการรู้เห็นตามความเป็นจริง   

           อยากเป็นผู้ที่มีความสุข ก็ต้องสร้างบุญกุศล กระทำความดี รักษาศีล ให้ทาน เจริญจิตภาวนา ให้เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ รู้เท่าทันตามความเป็นจริง เพื่อให้เกิดความสงบเย็นขึ้นในจิตใจ

No comments yet...

Leave your comment

89430

Character Limit 400