#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
สิ่งปรุงแต่งทั้งปวง ล้วนมายา
###สิ่งปรุงแต่งทั้งปวง ล้วนมายา#!!!!
##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๒๑๐, หน้า ๗๔; จะขอแบ่งออกเป็น ๓ ประโยค ดังนี้ :-
##ประโยคที่ ๑ ""ความคิดว่า "มีอยู่" ก็ตาม, ความคิดว่า "ไม่มีอยู่" ก็ตาม, ทั้งสองอย่างล้วนแต่เป็นความคิดที่เคยตัว, ไม่ดีอะไรไปกว่าสิ่งซึ่งเป็นมายาทั้งหลาย" ท่านฮวงโปชี้ให้เห็นว่า "มีอยู่" กับ "ไม่มีอยู่" เป็นเพียงความคิดปรุงแต่งเท่านั้น
ซึ่งเกิดขึ้นมาเพราะความเคยชินที่เรียกว่า อนุสัย; "มีอยู่" กับ "ไม่มีอยู่" เป็นลักษณะของคติทวินิยม ก็คือ การยึดติดอยู่ในสิ่งที่เป็นคู่ ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นความคิดเอาเอง, ท่านกล่าวว่า ไม่ดีอะไรไปกว่าสิ่งที่เป็นมายาทั้งหลาย.
##ประโยคที่ ๒ ""ดังนั้น จึงมีคำจารึกไว้ว่า "สิ่งใดก็ตามที่เข้าใจเอาเองตามความรู้สึกทางอายตนะ, ย่อมเป็นเหมือนกับมายา"" อายตนะ ก็คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ; ในเมื่อสัมผัสกับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์แล้ว
คนธรรมดาทั่วไป มักจะเกิดความยินดีบ้าง ความยินร้ายบ้าง เรียกว่า ถูกอารมณ์ภายนอกเป็นตัวกำหนดจิตใจให้เป็นไปตามอำนาจ, แต่บุคคลที่มีสติปัญญา ย่อมมีจิตใจปรกติต่ออารมณ์ที่มากระทบนั้น เพราะมองเห็นว่า ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นมายา.
##ประโยคที่ ๓ ""ข้อนี้หมายถึงทุกสิ่ง, นับตั้งแต่สิ่งที่เป็นเพียงความคิดไปจนถึงสิ่งที่มีชีวิตเป็นอยู่จริง ๆ"" จากข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สังขตธรรมทั้งปวงล้วนแต่เป็นมายาทั้งสิ้น, นับตั้งแต่ความคิดปรุงแต่งซึ่งเป็นนามธรรม ก็เป็นมายา;
แม้ร่างกายหรือวัตถุต่าง ๆ ภายนอกที่เป็นรูปธรรม ก็เป็นมายา, ดังคำกล่าวที่ว่า "สิ่งปรุงแต่งทั้งปวง เป็นเพียงปรากฏการณ์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ, และในปรากฏการณ์เหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นมายา"; สิ่งที่เป็นความจริงแท้ ก็คือ จิตหนึ่งหรือพระนิพพานนั่นเอง ซึ่งเป็นอสังขตธรรม. (๑๒ ธ. ค.๖๑).