#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

#ความถือตัวแขวงอยู่ลึก#!!!

      ##คำสอนของท่านเว่ยหล่าง, อยู่ในหมวดที่ ๗, ว่าด้วยคำสอนอันเหมาะแก่อุปนิสัยฯ, หน้า ๑๐๔; บทนี้มีความยาวพอสมควร จึงได้แบ่งออกเป็นตอน ๆ, ตอนนี้เป็นตอนที่ ๒, ขอแยกออกเป็น ๓ ประโยค ดังนี้ :-

      ##ประโยคที่ ๑ "ภิกษุอันแช็กกล่าวขึ้นว่า ถ้ายุคในก่อนหน้าพระภิสมครรชิตศวร พระพุทธเจ้าองค์แรก ก็พอจะเป็นไปได้ที่ใคร ๆ จะรู้ธรรมได้โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับอาจารย์ แต่หลังจากนั้นมาแล้ว ผู้ที่บรรลุธรรมโดยไม่อาศัยความช่วยเหลือและยืนยันของอาจารย์คนใดคนหนึ่งแล้ว (ดูเหมือนจะ) ใช้ไม่ได้เป็นธรรมดา""

      ข้อความดังกล่าวเป็นการสนทนากันระหว่างภิกษุหยวนกว็อก ซึ่งท่านทราบถึงข้อลี้ลับแห่งใจของตนเอง เพราะได้อ่านวิมลกีรตินิเทศสูตร กำลังสนทนากับภิกษุอันแช็กผู้เป็นศิษย์พระสังฆปริณายกองค์ที่หก, ภิกษุหยวนกว็อกนิมนต์ให้ภิกษุอันแช็กช่วยพิสูจน์ถึงภูมิธรรมของตน แต่กลับถูกแนะนำให้ไปหาท่านเว่ยหล่าง.

      ##ประโยคที่ ๒ ""หยวนกว็อกได้ถามว่า ถ้าดังนั้นท่านช่วยเป็นผู้พิสูจน์การรู้ธรรมของผมได้ไหมเล่า?; ภิกษุอันแช็กตอบว่า คำพูดของผมไม่มีน้ำหนัก, ที่ตำบลโซกายมีพระสังฆปริณายกยกองค์ที่หกอยู่ที่นั่น คนจำนวนมากมาหาท่านจากทิศต่าง ๆ ด้วยความประสงค์อย่างเดียวกัน คือ เพื่อรับเอาธรรม ถ้าท่านใคร่จะไปที่นั่น ผมยินดีที่จะไปเป็นเพื่อน""

      ท่านเว่ยหล่างอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่เป็น แต่มีตำแหน่งระดับพระสังฆปริณายกองค์ที่หก ท่านไม่สอนอะไรอื่น นอกจากนำผู้ฟังให้เข้าถึงความเห็นแจ้งต่อจิตเดิมแท้อย่างเดียว.

      ##ประโยคที่ ๓ ""ในเวลาอันสมควร ภิกษุทั้งสองก็ได้ไปถึงโซกายและพบปะกับพระสังฆปริณายก; สำหรับท่านหยวนกว็อกนั้น เมื่อได้เดินเวียนรอบ ๆ พระสังฆปริณายกสามครั้งแล้ว ก็หยุดยืนถือไม้เท้านิ่งอยู่ (ปราศจากการแสดงความเคารพแต่อย่างใด)""

      การแสดงออกของภิกษุหยวนกว็อกในลักษณะไม่ทำความเคารพ ก็เพราะมีมานะ คือ ความถือตัวถือตน, สิ่งที่เรียกว่า "มานะ" เป็นสังโยชน์ตัวหนึ่งที่แขวงอยู่ลึกในทางจิตใจ ต้องใช้สติปัญญาระดับอรหันต์เท่านั้น จึงจะละได้เด็ดขาด. (๖ ก. พ.๖๒)

No comments yet...

Leave your comment

10924

Character Limit 400