#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

##ขันธ์ห้าเป็นภาพลวง#!!!

      ##คำสอนของท่านเว่ยหล่าง, อยู่ในหมวดที่ ๘, หน้า ๑๑๖- ๑๑๗; จะนำมาเขียนสัก ๓ ประโยค ดังนี้ :-

      ##ประโยคที่ ๑ ""เมื่อได้ฟังเช่นนี้ ชีชิงจึงกล่าวขออภัยที่ได้ถามปัญหาโง่ ๆ ออกไป, และกล่าวขอบคุณในคำสอนของพระสังฆปริณายก พร้อมกับกล่าวโศลกต่อไปว่า "ความเป็นตัวตนนั้นมิใช่อะไร นอกจากเป็นภาพลวงอันเกิดจากการประชุมกันของขันธ์ห้า""

      ชีชิงเมื่อได้ฟังคำสอนของพระสังฆปริณายก (เว่ยหล่าง) ก็เกิดความเข้าใจแจ่มแจ้งต่อจิตเดิมแท้ และได้กล่าวเป็นโศลกธรรมถึงความเป็นมายาของขันธ์ห้าว่า ไร้ตัวตน; รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นเพียงภาพลวงตา ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นอนัตตา, แต่เพราะอวิชชาปิดบัง ปุถุชนจึงเห็นว่าเป็นอัตตา.

      ##ประโยคที่ ๒ ""และภาพลวงนี้ ก็ไม่มีอะไรที่จะเกี่ยวข้องกับความจริงแท้, การยึดมั่นว่า มีตถตาสำหรับเราที่จะยึดหมายหรือมุ่งไปสู่ ย่อมเป็นธรรมที่ไม่บริสุทธิ์อย่างหนึ่ง""

      ชีชิงชี้ให้เห็นว่า ภาพลวงตาของขันธ์ห้า คือรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนั้น มิได้เกี่ยวข้องกับความจริงแท้ หรือจะเรียกว่า พระนิพพานก็ได้ เพราะว่า ภาพลวงของขันธ์ห้า เป็นสิ่งปรุงแต่ง (สังขตะ) ส่วนพระนิพพานเป็นสภาวะที่ปราศจากความปรุงแต่ง (อสังขตะ); และท่านได้กล่าวอีกว่า การยึดมั่นว่ามีตถตา (จิตเดิมแท้) เป็นที่ยึดหมายหรือมุ่งหมายสู่ ก็คืออุปสรรคอย่างหนึ่ง.

      ##ประโยคที่ ๓ ""เมื่อได้กล่าวรับรองโศลกของชีชิงแล้ว พระสังฆปริณายกจึงกล่าวต่อไปว่า คำสอนของอาจารย์ท่านในเรื่องศีล สมาธิ ปัญญานั้น ใช้กับคนฉลาดในประเภทด้อย ส่วนของฉันนั้น ใช้สำหรับคนฉลาดในประเภทเด่น""

      ครั้นท่านเว่ยหล่างได้ฟังโศลกของชีชิงแล้ว ก็ได้กล่าวรับรอง พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า ที่ท่านชินเชาสอนเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ใช้ได้กับคนฉลาดประเภทด้อยเท่านั้น คือรู้ธรรมได้ แต่ต้องใช้เวลา, ส่วนที่ท่านเว่ยหล่างสอนเอง ใช้กับคนฉลาดประเภทเด่น คือรู้ธรรมได้เร็ว ที่เรียกว่า บรรลุแบบฉับพลัน. (๑๖ ส. ค.๖๒)

No comments yet...

Leave your comment

34503

Character Limit 400