#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
##รูปทุกชนิดล้วนมายา#!!!
##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๒๓๗, หน้า ๘๓; จะขอแบ่งออกเป็น ๓ ประโยค ดังนี้ :-
##ประโยคที่ ๑ ""ถาม..แม้ว่าจิตนั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีรูปลักษณะ แต่ท่านอาจารย์อาจปฏิเสธได้อย่างไรว่า ไม่มีพุทธลักษณะ ๓๒ ประการ หรือไม่มีอุดมภาพ ๘๐ ประการ ซึ่งสัตว์อาศัยข้ามฟากแห่งสังสารวัฏได้""
คำว่า จิตเป็นสิ่งที่ไม่มีรูปลักษณะ หมายถึง จิตหนึ่ง ซึ่งเป็นสภาวะที่ว่างจากความคิดปรุงแต่งด้วยประการทั้งปวง, ดังนั้นที่ว่า "ไม่มีรูปลักษณะ" มิใช่เฉพาะรูปที่เป็นวัตถุภายนอกอย่างเดียว แต่รวมไปถึงรูปของความคิดปรุงแต่งที่เกิดขึ้นกับจิตใจด้วย; คำว่า พุทธลักษณะ ๓๒ ประการกับอุดมภาพ ๘๐ ประการ อันนี้เป็นลักษณะของพระพุทธเจ้าที่เป็นองค์พระศาสดา; ทีนี้มาดูคำตอบของท่านฮวงโปกัน.
##ประโยคที่ ๒ ""ตอบ..ลักษณะ ๓๒ ประการ ก็เป็นเพียงสักว่าลักษณะของรูป; สิ่งใดก็ตามที่มีรูป สิ่งนั้นเป็นมายา; อุดมภาพ ๘๐ ประการนั้น ก็ยังตกอยู่ในวงของสสาร (วัตถุ) อยู่นั่นเอง""
ท่านชี้ให้เห็นว่า พุทธลักษณะทั้ง ๓๒ ประการของพระบรมศาสดา ก็เป็นเพียงลักษณะของรูปเท่านั้น ไม่มีอะไรที่พิเศษหรือสำคัญแต่อย่างใด; ท่านกล่าวว่า สิ่งใดก็ตามที่มีรูป สิ่งนั้นเป็นมายา, ส่วนของจริง ของแท้ มีอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ จิตหนึ่ง; คำว่า อุดมภาพ ๘๐ ประการ หมายถึง อิริยาบถต่าง ๆ ของพระพุทธองค์ แต่ก็ยังอยู่ในลักษณะของรูปเหมือนกัน ฉะนั้นท่านจึงบอกว่า อุดมภาพทั้ง ๘๐ ประการ ก็ยังตกอยู่ในวงของสสาร คือยังเป็นวัตถุ.
##ประโยคที่ ๓ ""ผู้ใดก็ตามสำคัญว่า ตัวตนมีอยู่ในสสาร ก็เป็นผู้ที่กำลังเดินผิดทาง; ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าใจเรื่องของพระตถาคตเจ้าได้อย่างถูกต้องเลย""
คำว่า ตัวตนอยู่ในสสาร หมายถึง มีความเข้าใจผิดว่า จิตใจอยู่ในร่างกาย คือมองเห็นว่า ร่างกายและจิตใจ เป็นสิ่งที่มีอยู่อย่างเป็นตัวเป็นตน ซึ่งโดยธรรมชาติจริง ๆ แล้ว, ร่างกายและจิตใจไร้ตัวตน (อนัตตา) ท่านจึงกล่าวว่า "ผู้ใดก็ตามสำคัญว่า ตัวตนมีอยู่ในสสาร ก็เป็นผู้ที่กำลังเดินทางผิด ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าใจเรื่องของพระตถาคตเจ้าได้อย่างถูกต้องเลย" เพราะคำว่า พระตถาคตเจ้าในที่นี้ หมายถึง จิตหนึ่งหรือความว่าง (สุญญตา). (๕ ก. ย.๖๒)