#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
##การให้อภัยเป็นธรรมอันเลิศ#!!!
##คำสอนท่านเว่ยหล่าง, อยู่ในหมวดที่ ๘, หน้า ๑๑๙; จะนำมาเขียนสัก ๔ ประโยค ดังนี้ :-
##ประโยคที่ ๑ ""จางฮางจงตกใจอย่างสุดขีด เขาเป็นลมสลบไปเป็นเวลานานจึงฟื้น เขาเสียใจมากและสำนึกผิด จึงอ้อนวอนขอความเมตตาต่อพระสังฆปริณายกและขอบวชทันที""
จางฮางจงได้รับจ้างจากเหล่าศิษย์ท่านชินเชาให้มาทำการฆาตกรรมต่อพระสังฆปริณายก (เว่ยหล่าง) แต่กระทำไม่สำเร็จ เขาจึงตกใจกลัวอย่างสุดขีด ถึงขนาดเป็นลมสลบ ครั้นฟื้นขึ้นมา ก็เกิดสำนึกผิด และขออ้อนวอนให้พระสังฆปริณายกบวชให้ แต่ก็ไม่ได้บวช.
##ประโยคที่ ๒ ""พระสังฆปริณายกมอบเงินสิบตำลึงให้เขาและกล่าวว่า ท่านอย่าอยู่ที่นี่เลย เพราะลูกศิษย์ของฉันคงจะทำร้ายท่าน ไปเสียก่อน แล้วเวลาอื่นค่อยปลอมตัวมาหาฉันใหม่ ฉันจะดูแลความปลอดภัยให้ท่าน""
เมื่อได้อ่านข้อความในประโยคนี้แล้ว จะเห็นว่า ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ เปี่ยมอยู่ด้วยสติปัญญาและเมตตา จะไม่แสดงออกถึงความเป็นผู้มีอคติ คือความลำเอียง มีเมตตากรุณาทั้งผู้ที่หวังดีและหวังร้าย.
##ประโยคที่ ๓ ""เมื่อได้รับคำสั่งเช่นนั้น เขาก็หนีไปในคืนวันนั้น ภายหลังต่อมาได้บวชเป็นพระภิกษุ ครั้นได้รับการอุปสมบทโดยสมบูรณ์แล้ว เขาก็ปฏิบัติตนเป็นพระที่มีความเพียรยิ่ง""
จางฮางจงหลังจากได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว ด้วยจิตสำนึกผิดที่เคยไปทำการฆาตกรรมต่อพระสังฆปริณายก จึงได้ตั้งใจในการศึกษาทั้งปริยัติและฝึกฝนประพฤติปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง.
##ประโยคที่ ๔ ""วันหนึ่งเมื่อระลึกถึงคำกล่าวของพระสังฆปริณายกได้ เขาจึงเดินทางรอนแรมมาเป็นระยะทางไกล เมื่อเข้าพบและนมัสการพระสังฆปริณายก พระสังฆปริณายกกล่าวว่า "ทำไมจึงได้มาจนล่าช้าเช่นนี้ ? ฉันคิดถึงท่านตลอดเวลา"""
คำกล่าวในการปฏิสันถาร คือ การต้อนรับปราศรัยของพระสังฆปริณายก แสดงถึงความเมตตาอาทรต่อจางฮางจงเป็นอย่างยิ่ง; พรหมวิหารสี่ เป็นคุณธรรมของผู้นำอันแท้จริง. (๘ พ. ย.๖๒)