#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
กิจกรรมเข้าวัดวันอาทิตย์
ธรรมมะ เปรียบเสมือนพ่วงแพที่นำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางหรือเรียกอีกอย่างนึงว่า"เครื่องมือ" ที่ช่วยพัฒนาขัดเกลาจิตใจจากกิเลสความติดข้อง
"เครื่องมือ" ในวันนี้จะขอกล่าวถึง "ภาวนา ๔"
ภาวนา คือ การทำให้เจริญให้เป็นให้มีขึ้น ด้วยการฝึกอบรมพัฒนา ดังนี้
๑.ภาวิตกาโย คือ กายภาวนา หมายถึง การฝึกอบรมกายให้รู่จักเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทางวัตถุหรือกายภาพให้ถูกต้องเหมาะสม คือ ตาดู หูฟัง ด้วยสติและปัญญา จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายตระหนักรู้ ไม่หลงเพลินแต่เกิดคุณประโยชน์มิให้บาปอกุศลครอบงำช่วยหนุนนำให้กุศลธรรมงอกงาม
๒.ภาวิตสีโล คือ ศีลภาวนา หมายถึง การพัฒนาความประพฤติฝึกอบรมศีล ให้ตั้งอยู่ในระเบียบวินัยในกายในวาจา ไม่เบียดเบียนก่อความเดือดร้อนเสียหายอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความสัมพันธ์ที่ดีงาม
๓.ภาวิตจิตโต คือ การเจริญจิต ฝึกอบรมให้ตั้งมั่นเข้มแข็ง เจริญงอกงามด้วยคุณธรรม เช่น มีเมตตากรุณา ขยันหมั่นเพียร อดทนมีสมาธิ สดชื่นเบิกบาน(อธิจิตตสิกขา คือพัฒนาคุณภาพจิต พัฒนาสมรรถภาพของจิต และพัฒนาสุขภาพจิต)
๔.ภาวิตปัญโญ คือ ปัญญาภาวนา หมายถึงการเจริญปัญญาฝึกอบรมปัญญาให้รู้เข้าใจสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง รู้เท่าทันโลกและชีวิตตามสภาวะ มีจิตใจที่เป็นอิสระทำตนให้บริสุทธิ์จากกิเลสและความทุกข์ได้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นรู้ถึงเหตุปัจจัยด้วยปัญญา
พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ยถาภูตญาณทัสสนะ" คือการรู้เห็นสรรพสิ่งตามความเป็นจริง" เมื่อพัฒนาปัญญาได้สูงสุด คือการปลดเปลื้องตนให้พ้นจากกิเลสปราศจากความทุกข์ มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริง มีจิตใจที่เป็นอิสระ สงบ เย็น เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น