#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

#จิตว่างไม่มีมืดและสว่าง#

      ##คำสอนของท่านเว่ยหล่าง, อยู่ในหมวดที่ ๙, หน้า ๑๒๗; จะนำมาเขียนสัก ๒ ประโยค :-

      ##ประโยคที่ ๑ ""ชิตกันแย้งว่า แสงสว่าง หมายถึง ปัญญา และความมืด ก็หมายถึง กิเลส ถ้าผู้เดินทางไม่ได้ทำลายกิเลสด้วยอำนาจแห่งปัญญาแล้ว เขาจะพาตัวให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏอันไม่มีเบื้องต้นได้อย่างไร?""

      ข้อความนี้เนื่องมาจากตอนที่แล้ว ซึ่งท่านเว่ยหล่างได้อธิบายในทำนองว่า สัจธรรม กล่าวคือ ความว่างนั้น ไม่ได้หมายถึงแสงสว่างหรือความมืด, สิ่งที่เรียกว่า แสงสว่างและความมืด เป็นความคิดที่สับเปลี่ยนกันไปมา และท่านได้ชี้ให้เห็นว่า สัจธรรมที่แท้จริงนั้น จะอุปมาเทียบเคียงเหมือนกับอะไรไม่ได้ เป็นสภาวะที่อยู่เหนือการอุปมา อยู่เหนือการบัญญัติ,

      ฉะนั้นในประโยคนี้ ชิตกันจึงได้แย้งขึ้นว่า แสงสว่าง หมายถึง ปัญญา ความมืด หมายถึง กิเลส การที่จะเข้าถึงความหลุดพ้นได้ ต้องอาศัยแสงสว่างแห่งปัญญา เพื่อละความมืดของกิเลส; ชิตกันมองเห็นว่า ปัญญากับกิเลสมีความแตกต่างกัน ปัญญาเป็นความสว่าง ส่วนกิเลสเป็นความมืด เมื่อมีความสว่าง ความมืดก็หายไป.

      ##ประโยคที่ ๒ ""พระสังฆนายกตอบว่า กิเลสกับโพธิสองอย่างนี้เหมือนกันไม่ต่างกัน การทำลายกิเลสด้วยปัญญา เป็นคำสอนของสำนักสาวกภูมิ และสำนักปัจเจกพุทธภูมิ ซึ่งสานุศิษย์ของสำนักเหล่านั้น ใช้ยานเทียมด้วยแพะและใช้ยานเทียมด้วยกวาง สำหรับผู้มีความเฉียบแหลมและปัญญาสูง คำสอนดังกล่าวคงจะไร้ประโยชน์ทั้งสิ้น""

      สำนักสาวกภูมิและสำนักปัจเจกพุทธภูมิ เป็นนิกายย่อย ๆ ของฝ่ายมหายาน มีคำสอนที่ยังไม่ละเอียดลึกซึ้ง ยังยึดติดอยู่ในคติทวินิยม คือ ยึดติดอยู่กับสิ่งที่เป็นคู่ ๆ เช่น กิเลสกับโพธิ เป็นต้น;

      สำนักสาวกภูมิเปรียบดั่งยานที่เทียมด้วยแพะ จัดเป็นยานต่ำสุด ส่วนสำนักปัจเจกพุทธภูมิ เปรียบดั่งยานที่เทียมด้วยกวาง คือ สูงขึ้นมาระดับหนึ่ง แต่สำหรับหลักคำสอนของสำนักท่านเว่ยหล่างนั้น เปรียบดั่งยานที่เทียมด้วยวัวขาว; การตระหนักชัดแจ้งอยู่กับจิตเดิมแท้ ว่างจากสิ่งคู่ด้วยประการทั้งปวง นั่นคือ ยานอันสูงสุด. (๒๐ มี. ค.๖๓)

2 Comments

ครีม
คือ
ครีม
คือ

Leave your comment

68137

Character Limit 400