#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
##ความว่าง คือธรรมกาย.
##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๒๙๑, หน้า ๑๐๓- ๑๐๔; จะขอแบ่งออกเป็น ๔ ประโยค ดังนี้ :-
##ประโยคที่ ๑ ""โดยการปฏิบัติตามวิธีนั้น พวกเธอก็ได้แต่เพียงแสดงท่าทีว่าจะเข้าถึงพุทธภาวะให้สำเร็จ""
ข้อความดังกล่าว เนื่องอยู่กับตอนที่แล้ว ซึ่งมีความว่า "ที่คนเขาพูดกันถึงเรื่องการลุถึงโพธิจิต แต่นั่นอาจเรียกได้ว่า เป็นวิธีที่ฉลาดที่สุดที่เขาใช้เพื่อขับไล่พุทธะไปเสียจากเธอ" ถ้ามีความคิดว่า "ต้องมีการลุถึงโพธิจิต" ก็เท่ากับเป็นการขับไล่พุทธะแท้ ซึ่งมีอยู่แล้วที่ใจให้สูญหายไป.
##ประโยคที่ ๒ ""แม้เธอจะใช้เวลากัปป์แล้วกัปป์เล่า ในการปฏิบัติเช่นนั้น เธอก็จะเข้าถึงได้เพียงสัมโภคกายและนิรมานกายเท่านั้น""
ท่านได้ชี้ให้เห็นว่า แม้จะใช้เวลายาวนานเป็นกัปป์เป็นกัลป์ก็ตาม ในการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุ ก็ไม่มีโอกาสที่จะเห็นแจ้ง; พุทธะจะประจักษ์แจ่มแจ้งออกมาได้นั้น ต้องหยุดความคิดปรุงแต่งในทุกระดับ แม้แต่ความคิดที่ว่า ต้องมีการลุถึง.
##ประโยคที่ ๓ ""แล้วข้อนั้น มันเกี่ยวอะไรกันเล่ากับพุทธภาวะดั้งเดิมและแท้จริงของพวกเธอ""
ในข้อความนี้ ท่านอาจารย์พุทธทาสได้อธิบายไว้ว่า "คือเธอจะถึงได้แต่พุทธะที่เป็นกายเนื้อและกายทิพย์ ซึ่งผู้รู้ถือว่ายังเป็นของไม่เที่ยงแท้ถาวร; แต่ยังขาดธรรมกาย ซึ่งเป็นพุทธะแท้ที่เป็นอันเดียวกันกับสิ่งสูงสุด" พระพุทธเจ้าที่เป็นพระศาสดา เรียกว่า รูปกาย ส่วนพุทธภาวะซึ่งเป็นสัจธรรม เรียกว่า ธรรมกาย.
##ประโยคที่ ๔ ""ด้วยเหตุนี้แหละ จึงมีคำจารึกไว้ว่า " การแสวงหาพุทธะข้างนอก เพื่อให้ได้พุทธะที่มีรูปนั้น ไม่มีอะไรเลยที่พวกเธอจะต้องทำ ดังนี้"
คำว่า "ข้างนอก" ในที่นี้ ไม่ใช่เฉพาะข้างนอกของร่างกายอย่างเดียว แม้แต่ความคิดปรุงแต่งก็รวมอยู่ในความหมายของคำว่า ข้างนอกด้วย; การแสวงหาพุทธะในป่าดงแห่งความคิดปรุงแต่ง เรียกว่า แสวงหาข้างนอก, สภาวะที่ว่างจากความคิดปรุงแต่งด้วยประการทั้งปวง นั่นแหละคือ พุทธะแท้. (๒๑ เม. ย.๖๔)