#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
##พุทธะแท้อยู่ที่ใจ.
##คำสอนของท่านเว่ยหล่าง, หมวดที่ ๑๐, หน้า ๑๔๔; จะขอนำมาเขียนสัก ๔ ประโยค ดังนี้ :-
##ประโยคที่ ๑ ""ภายในจิตของเรามีพุทธะ และพุทธะที่อยู่ภายในนั้น เป็นพุทธะที่แท้จริง""
ท่านเว่ยหล่างได้ชี้ให้เห็นว่า พุทธะที่ใจเป็นพุทธะอันแท้จริง ผู้เขียนมีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้ามีแค่สองความหมายเท่านั้น คือ พระพุทธเจ้าที่เป็นองค์พระศาสดา ซึ่งประสูติ ณ สวนลุมพินี ตรัสรู้ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา และปรินิพพานที่เมืองกุสินารา กับพระพุทธเจ้าที่เป็นพุทธภาวะ ซึ่งเป็นอมตธรรม หมายถึง จิตว่าง.
##ประโยคที่ ๒ ""ถ้าไม่หาพุทธะภายในจิตของเราแล้ว จะไปหาพุทธะที่แท้จริงได้จากที่ไหน?""
แน่นอนว่า พระพุทธเจ้าที่เป็นองค์พระศาสดานั้น ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ยังเหลือก็แต่พระพุทธเจ้าที่เรียกว่า พุทธภาวะ ขอถามอีกครั้งว่า พุทธภาวะอยู่ที่ไหน? ตอบว่า อยู่ที่ใจ ฉะนั้น การเที่ยวแสวงหาพุทธะจากที่อื่น ก็ไม่มีโอกาสที่จะพบได้ เมื่อใดจิตใจว่างจากกิเลส เมื่อนั้นย่อมพบกับพุทธะที่แท้จริง.
##ประโยคที่ ๓ ""อย่าสงสัยเลย เรื่องพุทธะภายในจิตของท่าน นอกจากที่นั่นแล้ว ไม่มีอะไรจะปรากฏขึ้นได้ เนื่องจากปรากฏการณ์หรือสรรพสิ่งทั้งหลาย เป็นผลิตผลมาจากจิตของเรา""
ที่ว่า ปรากฏการณ์หรือสรรพสิ่งทั้งหลาย เป็นผลิตผลมาจากจิต อันนี้เป็นภาษาธรรม สรรพสิ่งทั้งปวง ถ้าจิตไม่ไปให้ค่าความหมาย ก็เหมือนกับไม่มี แต่ถ้าจิตไปให้ค่าความหมาย ทุกอย่างก็มีขึ้นมา จิตที่ให้ค่าความหมาย ก็คือ จิตที่เป็นความคิดปรุงแต่ง.
##ประโยคที่ ๔ ""ในพระสูตรจึงกล่าวว่า เมื่ออาการของจิตเริ่มขึ้น สิ่งต่าง ๆ ก็ปรากฏ เมื่ออาการของจิตดับลง สรรพสิ่งทั้งหลายก็ดับ""
ที่ว่า เมื่ออาการของจิตเริ่มขึ้น สิ่งต่าง ๆ ก็ปรากฏ เมื่ออาการของจิตดับลง สรรพสิ่งทั้งหลายก็ดับ หมายความว่า เมื่อความคิดปรุงแต่งเกิด ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ภายนอก ก็เกิดตามมา ครั้นความคิดปรุงแต่งดับ สิ่งทั้งปวงภายนอกก็ดับลงด้วย แต่ถ้ามีปัญญาเห็นแจ้งพุทธะ ความเกิดดับของความคิดและสิ่งต่าง ๆ ก็ไม่มี. (๖ พ. ค.๖๔)