#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

##ความรู้อันลึก#!!!

      ##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๒๙๘, หน้า ๑๐๗; ขอแบ่งออกเป็น ๓ ประโยค ดังนี้ :-

      ##ประโยคที่ ๑ ""เมื่อกล่าวถึงการสั่งสอนทั้งหมดเหล่านี้ ถ้าหากว่าเห็นแก่ทางอันประเสริฐนั้น อาตมาก็จะกล่าวแก่ท่านจากความรู้อันลึก และนำท่านไปข้างหน้า และท่านอาจจะเข้าใจคำที่อาตมากล่าวได้โดยแน่นอน""

      ที่ท่านพูดถึง "ทางอันประเสริฐ" ก็คือ มัชฌิมาปฏิปทา ผู้ที่เห็นแจ้งอยู่กับจิตหนึ่ง ประจักษ์ชัดอยู่กับจิตเดิมแท้ แสดงว่าผู้นั้นอยู่ในหนทางอันประเสริฐ เป็นผู้มีจิตที่ไม่เกาะอยู่กับอะไร; ถ้ายึดถือในสิ่งใด การยึดถือในสิ่งนั้น ก็ย่อมปิดกั้นหนทาง นี้คือความหมายที่ท่านกล่าวว่า "ความรู้อันลึกและนำท่าน (ผู้เป็นศิษย์) ไปข้างหน้า".

      ##ประโยคที่ ๒ ""แต่สำหรับความเมตตาและความกรุณานั้น ถ้าสมมติว่า อาตมาจะเอาสิ่งต่าง ๆ มาคิด และทำการศึกษาถึงความคิดเห็นของคนอื่น ๆ เพื่อเห็นแก่พวกเธอ โดยการกระทำทั้งสองอย่างนี้ จะไม่ช่วยให้พวกเธอเข้าถึงความรอบรู้ต่อจิตของเธอเอง จากภายในตัวเธอเองได้เลย""

      คนส่วนมากมักจะมองคำว่า เมตตา กรุณาในลักษณะการแสดงออกเป็นรูปธรรม เช่น การปล่อยนก การปล่อยปลา เป็นเจ้าภาพไถ่โคกระบือจากโรงฆ่าสัตว์ เป็นต้น แต่ท่านได้ชี้ให้เห็นว่า ความเมตตา กรุณาในลักษณะอย่างนั้น เป็นเพียงมายาของความคิด ยังไม่ใช่สัจธรรมแท้.

      ##ประโยคที่ ๓ ""ดังนั้นในที่สุด สิ่งทั้งสองนี้ จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย""

      ข้อความเกี่ยวกับเมตตาและกรุณา มาจากคำถามของศิษย์ที่ว่า "ด้วยอาการอย่างไรที่พุทธะทั้งหลาย ย่อมประกาศธรรมแก่สรรพสัตว์ เนื่องจากความเมตตาและความกรุณา อันมหาศาลของท่าน" จากคำถามดังกล่าว ท่านฮวงโปได้ตอบไปตอนแรกว่า "พวกเรากล่าวถึงความเมตตาและความกรุณาของท่านว่า เป็นสิ่งมหาศาล ก็เพราะว่า มันอยู่เหนือกฏแห่งความเป็นเหตุและผล ดังนั้นมันจึงไม่มีขอบเขตจำกัด"; เมตตา กรุณาที่อยู่ภายใต้กฏแห่งเหตุและผล เป็นความเมตตา กรุณาที่ออกมาจากความคิด ส่วนเมตตา กรุณาที่อยู่เหนือความเป็นเหตุและผล เป็นธรรมชาติของจิตพุทธะ. (๒๕ มิ. ย.๖๔)

No comments yet...

Leave your comment

53879

Character Limit 400