#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

##เหนืออายตนะ#!!!

      ##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๓๐๙, หน้า ๑๑๒; จะขอแบ่งออกเป็น ๓ ประโยค ดังนี้ :-

      ##ประโยคที่ ๑ ""เพราะเหตุที่สิ่งนี้ เป็นสิ่งที่เรารู้สึกต่อมันไม่ได้โดยทางอายตนะ""

      ท่านได้ชี้ให้เห็นว่า สภาวะของจิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้นั้น เป็นธรรมชาติที่เราไม่สามารถรู้ได้หรือเห็นได้โดยทางอายตนะทั้งหก คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 

      เพราะว่า การทำหน้าที่รับรู้ทางอายตนะ คือ วิญญาณ เช่น การรับรู้รูปที่มาปรากฏทางตา เรียกว่า จักขุวิญญาณ เป็นต้น แต่สิ่งที่เรียกว่า จิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้ ต้องรู้ด้วยปัญญาญาณ ซึ่งไม่ต้องผ่านทางอายตนะหก.

      ##ประโยคที่ ๒ ""ท่านโพธิธรรมจึงกล่าวว่า จิตซึ่งเป็นตัวธรรมชาติแท้ของคนเรานั้น เป็นครรภ์ ซึ่งมิได้มีใครทำให้เกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่ทำลายไม่ได้""

      เด็กอยู่ในครรภ์และคลอดออกจากครรภ์ อันนี้กล่าวโดยปุคลาธิษฐาน แต่ถ้าโดยธรรมาธิษฐาน คำว่า เด็กอยู่ในครรภ์และคลอดออกจากครรภ์ หมายถึง ความคิดปรุงแต่ง (สังขตะ) ซึ่งมีลักษณะเกิดขึ้น แปรปรวน และดับไป 

      คำว่า ครรภ์ หมายถึง จิตหนึ่ง ซึ่งเป็นอสังขตะ เป็นภาวะที่ปราศจากความปรุงแต่ง ไม่เกิด ไม่ดับ นี่แหละคือ ธรรมชาติแท้.

      ##ประโยคที่ ๓ ""ในการทำปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ นั้น มันเปลี่ยนรูปตัวมันเองออกมาเป็นปรากฏการณ์ต่าง ๆ""

      สภาวะของจิตหนึ่ง ซึ่งเป็นอสังขตธรรม มีคุณสมบัติที่สำคัญอยู่ ๓ อย่าง ได้แก่: ๑) ปริสุทโธ คือ มีความบริสุทธิ์ ปราศจากกิเลสด้วยประการทั้งปวง. ๒) สมาหิโต คือ มีความตั้งมั่น เป็นธรรมชาติที่ไม่หวั่นไหว ไม่ปรุงแต่ง.

      และ ๓) กัมมนีโย คือ ควรแก่การงาน มีสมรรถนะในการทำหน้าที่ต่าง ๆ ทุกชนิด ดังนั้น จิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้ ต้องมีคุณสมบัติทั้งสามอย่างนี้. (๑๑ ส. ค.๖๔)

No comments yet...

Leave your comment

85767

Character Limit 400