#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

##ขบวนการแห่งความคิด.

      ##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๓๑๗, หน้า ๑๑๔; จะขอแบ่งออกเป็น ๒ ประโยค ดังนี้ :-

      ##ประโยคที่ ๑ ""เพียงแต่สลัดขบวนการแห่งความคิดทั้งในทางสติปัญญาและทางคิดปรุงแต่งเสียเท่านั้น ธรรมชาติเดิมแท้ของพวกเธอก็จะแสดงความบริสุทธิ์ดั้งเดิมของมันออกมา""

      ท่านได้แยกขบวนการแห่งความคิดออกเป็น ๒ ความหมาย คือ: ๑) ขบวนการแห่งความคิดทางสติปัญญา หมายถึง ความรู้ที่อยู่ในลักษณะของปริยัติหรือทฤษฎี ซึ่งเป็นความรู้จำ รู้คิด ผู้ที่จำหลักธรรมได้มาก เรียกว่า พหูสูต. และ ๒) ขบวนการแห่งความคิดที่เกิดจากผัสสะทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจโดยตรง.

      ถ้าเกิดความคิดปรุงแต่งต่ออารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา เรียกว่า ความชัง, ถ้าเกิดความคิดปรุงแต่งต่ออารมณ์ที่น่าปรารถนา เรียกว่า ความรัก; ขบวนการแห่งความคิดปรุงแต่งทั้งสองนี้ เป็นสภาวะที่อยู่ในกระแสเดียวกัน ก็คือ ความปรุงแต่ง (สังขตะ).

      ท่านจึงกล่าวในทำนองว่า ถ้าสลัดขบวนการแห่งความคิดปรุงแต่งเหล่านี้เสียได้ ธรรมชาติเดิมแท้ กล่าวคือ จิตหนึ่ง ก็ย่อมประจักษ์แจ้งออกมา.

      ##ประโยคที่ ๒ ""วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ลุถึงความตรัสรู้ ที่จะทำให้เห็นธรรม ที่จะทำให้เป็นพุทธะขึ้นมา และอื่น ๆ ที่เหลืออีกทั้งหมด""

      ที่ท่านกล่าวว่า "และอื่น ๆ ที่เหลืออีกทั้งหมด" หมายถึง คำที่เป็นไวพจน์ของจิตหนึ่ง ซึ่งมีอยู่หลายคำ เช่น ใช้คำว่า การเห็นแจ้งจิตเดิมแท้ คือ สภาวะที่ปราศจากความปรุงแต่งก็ได้, การเข้าถึงอมตธรรม คือ สิ่งที่ไม่ตายก็ได้,

      การบรรลุพระนิพพาน คือ ภาวะที่อยู่เหนือความทุกข์ก็ได้, การประจักษ์ชัดต่ออนันตธรรม คือ ธรรมชาติแห่งความว่างชนิดที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ได้, การเห็นแจ้งต่อสัจธรรม คือ สิ่งที่เป็นความจริงแท้ก็ได้, และยังมีอีกหลายคำ นี้เพียงยกมาเป็นตัวอย่าง.

      ท่านได้ยืนยันว่า มีวิธีเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ลุถึงความตรัสรู้ ก็คือ สลัดขบวนการแห่งความคิดปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวงให้หมดสิ้นนั่นเอง. (๖ ก. ย.๖๔)

No comments yet...

Leave your comment

53352

Character Limit 400