#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
##จิตเหนือโลก#!!!
##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๓๒๗, หน้า ๑๑๖; จะแบ่งออกเป็น ๓ ประโยค ดังนี้ :-
##ประโยคที่ ๑ ""เมื่อเป็นดังนั้น เธอจะได้พบเป็นครั้งแรกในชีวิตอันมากมายหลายชนิดของเธอว่า ปฏิกิริยาของเธอต่อปรากฏการณ์ต่าง ๆ ได้ลดลง และในที่สุดเธอจะได้ข้ามขึ้นเหนือโลกทั้งสาม และมหาชนจะได้กล่าวกันว่า พุทธะองค์หนึ่งได้ปรากฏขึ้นในโลกแล้ว""
ปุถุชนเป็นผู้ที่ยังไม่เห็นแจ้งต่อจิตหนึ่ง ดังนั้นปฏิกิริยาของจิตใจ ย่อมมีความสับสนอลหม่าน แต่ผู้ที่เห็นแจ้งต่อจิตหนึ่งแล้ว ปฏิกิริยาที่แสดงออกต่อปรากฏการณ์ ก็มีความสุขุมละเอียดมากขึ้น สุดท้ายท่านกล่าวว่า จะเป็นผู้มีจิตใจอิสระอยู่เหนือโลกทั้งสาม ได้แก่ กามโลก รูปโลก อรูปโลก และนั่นคือ พุทธะองค์หนึ่ง.
##ประโยคที่ ๒ ""ความรู้อันบริสุทธิ์และปราศจากกิเลส ย่อมแสดงโดยปริยายอยู่แล้วว่า เป็นการทำความสิ้นสุดให้แก่ความคิดและความฝันอันไหลเรื่อย""
ความรู้ที่ประจักษ์แจ้งอยู่กับจิตหนึ่ง เรียกว่า เป็นความรู้ที่บริสุทธิ์ ถ้าถึงความเป็นอรหันต์ แน่นอนว่า ความคิดปรุงแต่งในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับหยาบ ระดับปานกลาง หรือระดับที่ละเอียด ย่อมไม่เกิดขึ้นมารบกวนอีกต่อไป
คำว่า ความฝัน หมายถึง ความคิดในขณะที่นอนหลับ ผู้ที่มีความรู้ประจักษ์แจ้งอยู่กับจิตหนึ่ง เรียกว่า เป็นผู้ที่ได้ทำความสิ้นสุดให้แก่ความคิดและความฝันอันไหลเรื่อยได้อย่างสมบูรณ์แล้ว.
##ประโยคที่ ๓ ""ทั้งนี้เพราะว่าโดยทางนั้นเอง เธอได้หยุดสร้างกรรมอันนำไปสู่การเกิดใหม่ ไม่ว่าจะเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์หรือเป็นสัตว์ที่ทนทุกข์อยู่ในนรก""
ผู้ที่เห็นแจ้งอยู่กับจิตหนึ่ง ชื่อว่า เป็นผู้ดำเนินอยู่ในทางสายกลางหรือ Middle way ซึ่งเป็นหนทางที่พ้นไปจากกรรม, ความหมายของคำว่า กรรม ก็คือ การกระทำด้วยกิเลส แต่ถ้าเป็นการกระทำด้วยสติปัญญา เรียกว่า กิริยา
ดังนั้น ผู้ที่ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง การกระทำทางกาย วาจา ใจ จึงเป็นเพียงกิริยา; คำว่า เกิดใหม่ ภาษาธรรมหมายถึง เกิดความรู้สึกในลักษณะต่าง ๆ เช่น เทวดา หมายถึง จิตที่ติดในบุญ, มนุษย์ หมายถึง จิตที่ติดความดี, สัตว์นรก หมายถึง จิตที่เกิดความโกรธ เป็นต้น. (๑๓ ต. ค.๖๔)