#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

##ไม่ต้องทำอะไร.

      ##คำสอนท่านฮวงโป, ตอนที่ ๓๔๔, หน้า ๑๒๑; จะขอแบ่งออกเป็น ๖ ประโยค ดังนี้ :-

      ##ประโยคที่ ๑ ""ครั้งแรกทีเดียว ท่านครูบาของพวกเราได้มาจากฟู่เกี่ยน (Fukien) แต่ท่านได้ปฏิญญา (ที่จะอยู่) บนภูเขาฮวงโป ในเขตซึ่งปกครองโดยข้าหลวงประจำเขต ๆ นี้ ตั้งแต่ท่านยังหนุ่มมาก""

      ผู้ฝักใฝ่เพื่อความเห็นแจ้งสัจธรรม เพื่อความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ย่อมยินดีในการใช้ชีวิตอยู่กับป่ากับภูเขา การเริ่มจากความเป็นคนหนุ่ม จะทำสิ่งใดย่อมทำได้ดีกว่า และมีเวลาให้ทำประโยชน์ได้มากกว่า การที่จะเริ่มเมื่ออายุมากแล้ว ดังตัวอย่างของท่านฮวงโปนั่นเอง.

      ##ประโยคที่ ๒ ""ที่กลางหน้าผากของท่านมีก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งโผล่ขึ้นมามีรูปคล้ายไข่มุก น้ำเสียงของท่านนุ่มนวลและน่าฟัง มรรยาทของท่านเสงี่ยมและสงบ""

      เป็นธรรมชาติของผู้ไฝ่ธรรมอยู่แล้ว โดยเฉพาะเป็นผู้ที่เห็นแจ้งต่อจิตหนึ่ง ประจักษ์ชัดอยู่กับจิตเดิมแท้ การพูดการจาก็จะมีความอ่อนหวานนิ่มนวล ไพเราะน่าฟัง มรรยาทก็สงบเสงี่ยมเรียบร้อย ถ้าจิตใจอ่อนโยนไร้อัตตา กาย วาจาข้างนอก ก็พลอยอ่อนโยนไปด้วย.

      ##ประโยคที่ ๓ ""หลังจากการบวชของท่านไม่กี่ปีนัก ขณะเดินทางไปยังภูเขาเทียนไท้ (Tien Tai) ท่านได้พบกับภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งไม่ช้าก็สนิทสนมกันราวกะว่า เพื่อนรักเก่าแก่ ดังนั้นท่านจึงร่วมเดินทางต่อไปด้วยกันสองรูป""

      การที่คนเราคบกันได้และสนิทสนมกันได้เร็ว เพราะมีธาตุตรงกัน หรืออย่างน้อยก็มีธาตุที่คล้ายกัน อุปนิสัยใกล้เคียงกัน ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่า คนเราคบกันด้วยธาตุ คือมีอะไรที่เหมือน ๆ กันนั่นเอง.

      ##ประโยคที่ ๔ ""เมื่อได้เห็นว่าหนทางนั้น มีกระแสน้ำเชี่ยวที่ไหลมาทางภูเขาขวางหน้าอยู่ ท่านครูบาของเราได้หยุดยืนค้ำกายด้วยไม้เท้านิ่งอยู่ ซึ่ง ณ ที่นั้นเอง เพื่อนของท่านได้ขอร้องให้ท่านเดินทางต่อ""

      คำว่า หนทาง หมายถึง ทางสายกลาง คำว่า กระแสน้ำเชี่ยวที่ไหลมาขวางหน้า หมายถึง บุญหรือความดี; ผู้ที่เห็นแจ้งอยู่กับจิตหนึ่ง เรียกว่า กำลังเดินทาง ผู้ที่มีความลึกซึ้งจริง ๆ จะไม่ยึดในบุญ ไม่ติดในความดี จิตจะไม่เข้าไปแตะต้อง.

      ##ประโยคที่ ๕ ""ท่านครูบาได้ตอบว่า "ไม่ละ ท่านไปก่อนเถอะ" ดังนั้นเพื่อนของท่านจึงลอยหมวกฟางกันฝนใบใหญ่ของเขาลงในกระแสน้ำเชี่ยว และข้ามไปสู่ฟากโน้นได้โดยง่าย""

      แม้ว่า เห็นแจ้งต่อจิตหนึ่งแล้ว แต่ถ้าไม่ลึกซึ้งพอ ก็ยังชอบทำบุญ ยังพอใจในการทำดี และพยายามปล่อยวางเพื่อไม่ให้ติดในบุญหรือความดีที่ตนเองทำ ก็เหมือนกับเพื่อนของท่านฮวงโปที่พยายามข้ามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เพื่อไปสู่ฝั่งโน้น.

      ##ประโยคที่ ๖ ""ท่านครูบาได้ถอนใจกล่าวว่า "เรายอมให้คนอย่างนี้ ติดตามเรามาแล้วตลอดทาง! เราควรจะได้ฆ่าเขาเสียก่อนหน้านี้ ด้วยไม้เท้านี้""

      ข้อความในประโยคนี้ เป็นภาษาธรรมะ คำว่า ฆ่า หมายถึง ฆ่าอัตตาในจิตใจของเพื่อนท่านนั่นเอง ฆ่าด้วยการแนะนำหรือสอนให้เขาได้ตื่นรู้ขึ้นมา ที่เรียกว่า การถ่ายทอดแบบจิตถึงจิต การที่ภิกษุผู้เป็นเพื่อนไม่ยอมอยู่ด้วยกัน ข้ามกระแสน้ำจากไป แสดงถึง ความเป็นคนตื้อ คือ มีอัตตา. (๘ ก. พ.๖๕)

No comments yet...

Leave your comment

87827

Character Limit 400