#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
#เต๋าเป็นนิรันดร์.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง (บทที่ ๗) จะแบ่งออกเป็น ๕ ประโยค ดังนี้:-
#ประโยคที่ ๑ "เต๋าไม่มีที่สิ้นสุด เป็นนิรันดร"
เต๋า ก็คือ ความว่าง ธรรมชาติแห่งเต๋านั้น ว่างชนิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด ที่ว่า ไม่มีที่สิ้นสุด อธิบายได้ ๒ ความหมาย คือ ๑) ย้อนไปในอดีต หาจุดเริ่มต้นว่า อยู่ตรงไหน ไม่มีจุดเริ่มต้น ย้อนมองไปในอนาคต จุดที่สุดอยู่ตรงไหน ก็หาไม่เจอจุดที่สุด. และ ๒) เต๋าว่างชนิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด ว่างอย่างไร้ขอบเขตจำกัด เป็นนิรันดร คือ ไม่มีในระหว่าง ปราศจากความคิดปรุงแต่งโดยสิ้นเชิง.
#ประโยคที่ ๒ "ทำไมจึงเป็นนิรันดร เพราะมันไม่เคยเกิด ไม่เคยตาย ไม่มีความอยากของมันเอง แต่ดำรงอยู่เพื่อสรรพสิ่ง"
ความเกิด ความตาย (ดับ) ของความคิดปรุงแต่ง เป็นสิ่งบดบังสัจจะแห่งเต๋า ซึ่งเป็นอมตะนิรันดร์ ถ้าในพุทธศาสนา เรียกว่า อสังขตะ ก็คือ ไม่ปรุงแต่ง ปราศจากการเปลี่ยนแปลงด้วยประการทั้งปวง และเป็นธรรมชาติหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง.
#ประโยคที่ ๓ "ผู้รู้อยู่ข้างหลัง เขาจึงกลายเป็นผู้นำหน้า"
ผู้รู้ หมายถึง ผู้เห็นแจ้งสัจจะแห่งเต๋า ผู้รู้อยู่ข้างหลัง หมายความว่า ผู้เห็นแจ้งเต๋า ย่อมไม่ชอบโอ้อวด ไม่ชอบแสดงตัวให้ปรากฏในทางสังคม ที่ว่า เขาจึงกลายเป็นผู้นำหน้า หมายความว่า สังคมให้เกียรติ ยกย่องให้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ผู้เห็นแจ้งเต๋ามีลักษณะที่เรียกว่า คมในฝัก นิ่งสงบ แต่จิตใจเปี่ยมอยู่ด้วยความฉลาดอย่างแท้จริง.
#ประโยคที่ ๔ "เขาละวางทุกสิ่ง จึงเป็นหนึ่งเดียวกับเต๋า"
ผู้ใดละวางทุกสิ่ง ไม่ยึดติดอยู่กับอะไร ผู้นั้นย่อมเป็นหนึ่งเดียวกับเต๋า การยึดติด คือ อุปสรรคที่เข้ามาปิดกั้น ทำให้ห่างไกลต่อสัจธรรม การละ การปล่อย การวาง วางจนไม่มีอะไรเหลือ แม้แต่ผู้วางก็ต้องไม่มี ว่างจากผู้วาง ว่างจากกิริยาอาการวาง และว่างจากสิ่งที่ถูกวาง.
#ประโยคที่ ๕ "ปล่อยวางตัวตนของตนเอง จึงมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ดี"
ปุถุชนมองเห็นว่า ขันธ์ห้าเป็นอัตตา รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นตัวตน แต่โดยธรรมชาติจริงๆ แล้วไร้ตัวตน (อนัตตา) ฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ปล่อยวางตัวตนของตนเอง จึงมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ดี สุขในที่นี้ คือ สุขที่ไร้สุข หรือสุขสงบนั่นเอง ความจริงโดยสมมุติ ชีวิตมีอยู่ แต่ความจริงโดยปรมัตถ์ ชีวิตไม่มี (เต๋า). (๘ มิ. ย. ๖๖)