#สัจจะไร้สิ่งคู่.

#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.

เรื่อง มารู้จัก “กาลามสูตร” ให้ถ่องแท้กันเทอญ

โดย: Lita De Pran
ชอบ: (0)
ไม่ชอบ: (0)
Created: 08 Oct 2019

เรื่อง. มารู้จักกาลามสูตรให้ถ่องแท้กันเทอญ

 

ตุมฺเห  กาลามา  อตฺตนาวชาเนยฺยาถ  อิเม  ธมฺมา  อกุสลา  อิเม  ธมฺมา  สาวชฺชา  อิเมธมฺมาวิญฺญุครหิตา  อิเม  ธมฺมา  สมตฺตา  สมาทินฺนาอหิตายทุกฺขายสํวตฺตนฺตีติ.”

เมื่อใดท่านผู้เป็นชาวกาลามะพึงรู้ด้วยตัวเองว่าธรรมเหล่านี้เป็นอกุศลธรรมเหล่านี้มีโทษธรรมเหล่านี้ผู้รู้ติเตียนธรรมเหล่านี้ใครสมาทานแล้วเป็นไปเพื่อสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เพื่อทุกข์เมื่อนั้นท่านทั้งหลายควรละธรรมเหล่านั้นเสีย.”

เป็นพระสูตรขึ้นต้นของกาลามสูตรเนื่องด้วยพระพุทธองค์ได้เสด็จไปชุมชนแห่งหนึ่งนามว่ากาลามโคตรซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ทำให้มีผู้คนเดินทางสัญจรไปมาตลอดเวลาและรวมถึงครูจำนวนมากที่มาเผยแผ่คำสอนซึ่งแตกต่างกันไปดังนั้นชาวกาลามะได้ทูลถามว่าเราจะเชื่อคำสอนใครนำมาปฏิบัติดีจึงเป็นเหตุให้พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนเรื่องกาลามสูตร๑๐ประการดังนี้คือ

.มาอนุสฺสวเนน- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อด้วยการฟังคำพูดที่ได้ยินตามกันมา

.มาปรมฺปราย- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อตามถ้อยคำการถือสืบกันมา

.มาอิติกิราย- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อด้วยข่าวที่ได้ยินมา

.มาปิฏกสมฺปทาเนน- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อด้วยการอ้างตำรา

.มาตกฺกเหตุ- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อเพราะคิดเอาเอง

.มานยเหตุ- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อเพราะการอนุมาน(คาดคะเน)

.มาอาการปริวิตกฺเกน- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล

.มาทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อเพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว

.มาภพฺพรูปตา- อย่าพึ่งปลงใจเชื่อมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้

๑๐.มาสมโณโนครูติ- ข้อนี้สำคัญที่สุดอย่าพึ่งปลงใจเชื่อเพราะนับถือว่าท่านสมณะนี้เป็นครูของเราซึ่งแม้แต่ตัวพระพุทธองค์ตรัสเองก็อย่าพึ่งปลงใจเชื่อเช่นความโลภมันร้อนอย่างไร? มันเป็นประโยชน์หรือมีโทษอย่างไร? เราทุกท่านสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง

ในขณะนี้ได้ข่าวเรื่องการดื่มน้ำปัสสาวะเพื่อรักษาโรคซึ่งตามข่าวว่าพระพุทธเจ้าสนับสนุนให้ทุกคนสามารถดื่มน้ำมูตรของตนเองหรือปัสสาวะโดยกล่าวอ้างว่าเป็นเภสัชหรือยา

จึงขอชี้แจ้งดังนี้

-ตามพระสูตรที่สนฺตุฏฺฐิสูตร(สันโดษ) ซึ่งพระองค์แนะนำให้ภิกษุอยู่อย่างสันโดษซึ่งตรงนี้มีข้อความท่อนหนึ่งว่า(อรรถกถาขุททกนิกายขุททกปาฐะอิติวุตตกวรรณนา)

ปุติมุตตตเภสัชตามพจนานุกรมพจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับประมวลศัพท์สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(.. ปยุตฺโต) ให้ความหมายว่าเป็นยาดองด้วยน้ำมูตรเน่าตามคัมภีร์อรรถกถาจารย์ได้ให้ความหมายว่าเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งเรียกว่าลูกสมอที่ดองด้วยปัสสาวะของโค, อรรถกถาจารย์อีกพวกหนึ่งกล่าวว่าเป็นเภสัชชนิดใดชนิดหนึ่งที่เขาสละคือทิ้ง.

-เหตุผลที่พระองค์ตรัสเรื่องน้ำมูตรเน่าอันเนื่องเพราะพระภิกษุในยุคนั้นอาศัยตามป่าซี่งไกลชุมชนและยากไร้ไม่มียารักษาโรคซึ่งไม่ประสงค์จะรบกวนญาติโยมจึงทำให้เกิดปุติมุตตตเภสัชเกิดขึ้นในยุคนั้นเพราะไม่มียาไม่มีหมอรักษาโรคนั่นเอง

-อีกพระสูตรหนึ่งชื่อมหาธรรมสมาทานสูตรหรือธรรมสมาทานคือข้อที่ยึดถือเอาเป็นหลักความประพฤติปฏิบัติพระองค์ตรัสไว้ประเภทดังนี้

.ธรรมสมาทานที่ให้ทุกข์ในปัจจุบันและมีทุกข์เป็นผลต่อไป

.ธรรมสมาทานที่ให้ทุกข์ในปัจจุบันแต่มีสุขเป็นผลต่อไป

.ธรรมสมาทานที่ให้สุขในปัจจุบันแต่มีทุกข์เป็นผลต่อไป

.ธรรมสมาทานที่ให้สุขในปัจจุบันและมีสุขเป็นผลต่อไป

-อธิบายโดยย่อของหลักธรรมข้างต้นกล่าวคือหากเรามีวิธีปฏิบัติธรรมอย่างไรเราก็จะได้รับผลเช่นนั้นตัวอย่างหากเราปฏิบัติแบบทรมานกายเราก็จะรับทุกข์ทนเป็นผลหรือวิธีปฏิบัติที่มีสุขเบื้องต้นแล้วมีสุขเป็นผลเป็นต้น

หลักธรรมดังกล่าวมีอยู่ตอนหนึ่งอุปมาดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เปรียบเหมือนมูตรเน่าอันระคนด้วยยาต่างๆ. บุรุษที่เป็นโรคผอมเหลืองมาถึงเข้า. ประชุมชนบอกเขาว่าดูกรบุรุษผู้เจริญมูตรเน่าอันระคนด้วยยาต่างๆนี้ถ้าท่านหวังจะดื่มก็ดื่มเถิดมูตรเน่าจักไม่ชอบใจแก่ท่านผู้ดื่มทั้งสีทั้งกลิ่นทั้งรสก็แต่ท่านครั้นดื่มเข้าไปแล้วจักมีสุข. บุรุษนั้นพิจารณาแล้วดื่มมิได้วางก็ไม่ชอบใจทั้งสีทั้งกลิ่นทั้งรสครั้นดื่มแล้วก็มีสุขแม้ฉันใดภท.! เรากล่าวธรรมสมาทานนี้ที่มีทุกข์ในปัจจุบันแต่มีสุขเป็นวิบากต่อไปว่ามีอุปมาฉันนั้น.

ดังนั้นจึงเป็นการดื่มน้ำมูตรตามพระสูตรนี้เป็นการเปรียบกับการปฏิบัติธรรมด้วยการทนการยากลำบากแล้วจะได้ผลเป็นสุขจะเห็นได้ว่าเป็นเพียงอุปมาเปรียบเทียบเท่านั้นเองกับการปฏิบัติธรรมเท่านั้นเองและถ้าจะกล่าวถึงการรักษาโรคก็ระบุแค่โรคผอมเหลืองเท่านั้นเอง

นอกจากน้ำมูตรแล้วพระพุทธองค์ยังทรงตรัสถึงปัณณเภสัช(ยาที่ทำจากใบไม้) มูลเภสัช(ยาที่ทำจากราก) ชตุเภสัช(ยาที่ทำจากยาง) เป็นต้นซึ่งพระพุทธองค์เองบางขณะที่ทรงอาพาธยังต้องอาศัยหมอแสดงว่าปัสสาวะจากน้ำมูตรนั้นไม่สามารถรักษาได้ทุกโรค

(ตัวอย่างของผู้ที่ดื่มน้ำปัสสาวะหรือรับการบำบัดด้วยปัสสาวะอาทิเช่นอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศอินเดียชื่อนายโมรัรจีเดไซประกาศว่าเหมาะกับคนอินเดียที่ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้  สำหรับคนไทยหากท่านใดประสงค์จะดื่มก็แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละท่าน)

ในฐานะความเป็นฆราวาสอาจพิจารณาเห็นสมควรทดลองดูก็ตามสิทธิของท่านด้วยเพราะท่านอาจพบได้ด้วยตนเองดังเช่นพบว่าเรารู้ความโกรธเกิดกับเราแล้วไม่ดีเราสามารถนำไปบอกต่อได้หรือความเมตตานั้นดีทำแล้วดีกับตนเองจึงควรนำไปบอกต่อได้แต่มิบังควรนำพระพุทธองค์ไปกล่าวอ้างจึงถือเป็นการทำร้ายพุทธศาสนาอย่างรุนแรงดังนั้นตามข่าวที่ปรากฎว่าปัสสาวะสามารถรักษาได้ทุกโรคจึงควรพิจารณาตามหลักกาลามสูตรซึ่งเห็นสมควรศึกษาตามพระสูตรที่กล่าวมาและสุดท้ายนี้ท่านควรใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารให้ถ่องแท้ก่อนเชื่อในข้อความที่ได้ยินได้ฟังตามกันมา

ด้วยเหตุนี้เราท่านทั้งหลายจงอย่ารีบเชื่อตามที่ได้ฟังกันมาอย่าเพิ่งรีบเชื่อเพราะถูกกับทิฏฐิของท่านหรือรีบเชื่อแม้สมณะนี้เป็นครูของเราสมดังคำกล่าวของท่านพระพุทธทาสว่า

                              “”ความโลภ””ว่ามันร้อนอย่างไรเป็นโทษอย่างไร

              เมื่อท่านเห็นแล้วก็ไม่สมาทานคือไม่ปล่อยให้ความโลภเกิดขึ้นในจิตใจเรา”.  นั่นเอง

เรียบเรียงธรรมบรรยาย โดยลลิต. มณีธรรม

No comments yet...

Leave your comment

67314

Character Limit 400