#สัจจะไร้สิ่งคู่.
#คัมภีร์ เต๋า เต๋อ จิง.
๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑
กิจกรรมเข้าวัดฟังธรรมประจำวันอาทิตย์
ธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ฉัตรชัย กิตติญาโญ
เรื่อง อุปกิเลส ๑๖ หรือ จิตตอุปกิเลส ๑๖
คือ ธรรมเครื่องเศร้าหมอง สิ่งที่ทำให้จิตขุ่นมัวรับคุณธรรมได้ยาก ดุจผ้าเปรอะเปื้อน สกปรก ย้อมไม่ได้ดี
๑. อภิชฌาวิลมโลภะ หรือ คิดเพ่งเล็งอยากได้โลภของเขา ใช้จาคะ สละออก ให้ทาน เพื่อลดความโลภออกจากตัว
๒. พยาบาท หรือ คิดมุ่งร้าย ปองร้ายผู้อื่น ต้องหัดมีความเมตตาอื่น
๓. โกธะ หรือ ความโกรธ โกรธแบบขุ่นเคืองภายในใจ ต้องใช้เมตตา กรุณาอยู่เป็นประจำ เพื่อลดความขุ่นเคืองลง
๔. อุปนาหะ หรือ ความผูกโกรธ เก็บความโกรธเอาไว้ ปรุงแต่งต่อ พวกใจแคบ ย้ำคิดย้ำทำ การให้อภัย อภัยทาน
๕. มักขะ หรือ ความลบหลู่คุณท่าน ลบหลู่ความดีของผู้อื่น เป็นคนอกตัญญู แข็งกร้าว ใช้หลักธรรม ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดีเพื่อลดมักขะลง
๖. ปลาสะ หรือ ความตีเสมอ ยกตัวเทียมท่าน ชอบคุยข่มคนอื่น
๗. อิสสา หรือ ความริษยา อิจฉาผู้อื่น ชอบกระวนกระวายอยู่ไม่สุขเมื่อผู้อื่นได้ดี
อุปกิเลสเข้าครอบงำจิตใจ ไม่ทำให้เกิดสิ่งดีกับใครและผู้ใดเลย การมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพื่อควบคุมจิตใจไม่ให้หวั่นไหวไปกับอุปกิเลสให้เกิดขึ้น ประคองจิตไว้ให้ถูกที่ถูกทาง ดั่งพุทธพจน์ว่า "จิตนี้ประภัสสร แต่เศร้าหมอง เพราะอุปกิเลสที่จรมา"